การรักษาความสะอาดของหมวกนิรภัยสามารถยืดอายุการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่การทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้พื้นผิวหมวกนิรภัยเสียหายได้

+ วางหมวกนิรภัยที่สกปรกบนพื้นผิวที่สะอาดและนุ่ม
+ ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดสิ่งสกปรกขนาดใหญ่บนพื้นผิวหมวกนิรภัย
+ ชุบผ้าให้หมาดๆ หยดน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่อุ่นๆ ลงบนผ้า แล้วเช็ดลงบนหมวกให้สะอาด
+ รอสักครู่จนกว่าน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่จะซึมซับสิ่งสกปรกที่ติดอยู่
+ เช็ดหมวกนิรภัยด้วยน้ำอุ่นสะอาดและผ้าสะอาดอีกผืนจนสบู่และสิ่งสกปรกหลุดออกหมด
+ ตากหมวกนิรภัยในที่ร่ม

งานยิงทรายสร้างฝุ่นละอองและเศษวัสดุที่เป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน จึงควรสวมใส่อุปกรณ์เพื่อป้องกัน

+ การป้องกันระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากงานยิงทรายสร้างฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น ฝุ่นทรายและเศษวัสดุ ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่นซิลิกา การสูดดมฝุ่นเหล่านี้อาจทำให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคซิลิโคซิส ฯลฯ

+ การป้องกันบาดแผลจากเศษวัสดุ เนื่องจากเศษทรายหรือเศษวัสดุขัดที่พ่นด้วยแรงดันสูงสามารถกระเด็นกลับมาทำให้เกิดการบาดเจ็บ เช่น การถลอกหรือบาดแผลรุนแรงบนผิวหนังได้

+ การป้องกันดวงตาและใบหน้า เนื่องจากฝุ่นและเศษทรายที่กระเด็นกระทบดวงตาสามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงต่อดวงตาได้

+ การป้องกันการสูญเสียการได้ยิน เนื่องจากเสียงดังจากเครื่องพ่นทรายที่มีแรงดันสูงอาจ

ทำให้เกิดปัญหาการได้ยินหรือสูญเสียการได้ยินในระยะยาว

+ การป้องกันสารเคมีและสารเคลือบที่เป็นอันตราย เนื่องจากนอกจากฝุ่นทรายแล้ว งานยิงทรายอาจมีการใช้สารเคมีอื่นด้วย

FR ย่อมาจาก Flame Retardant

FR หมายถึงการหน่วงการติดไฟ

การใส่สาร FR ลงในวัสุดุจะช่วยลดการแพร่กระจายของเปลวไฟ ทําให้เกิดการลุกลามไฟให้ช้าลง และยับยั้งการก่อตัวของควัน

การเคลือบสาร FR ที่ผิวผ้า จะทำให้ผ้าสามารถป้องกันความร้อนได้ระดับหนึ่ง รวมถึงเพิ่มคุณสมบัติกันสะเก็ดไฟให้ผ้า

ระดับกันความร้อนประมาณ 540°C - 700°C (ขึ้นกับวัสดุ)

นิยมมาทำเป็นชุดกันความร้อนแบบ Secondary, ชุดกันสะเก็ดไฟ รวมไปถึงอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยอื่นๆ เช่นปลอกแขน ฮู้ดคลุมศีรษะ เป็นต้น