NSE SAFETY


วิธีเลือกหน้ากากเชื่อมออโต้

ปัจจุบันหน้ากากเชื่อมปรับแสงอัตโนมัติ หรือ หน้ากากเชื่อมออโต้ มีหลายแบบหลายราคาหลายยี่ห้อ เราจะมีวิธีเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุด

1. ขนาดของหน้าจอ เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของหน้ากากเชื่อมปรับแสงอัตโนมัติเลยทีเดียว หน้าจอขนาดใหญ่จะมีราคาแพงแต่ทำงานได้ง่ายกว่าเพราะเห็นได้กว้างกว่า ในขณะที่หน้าจอเล็กราคาจะถูกกว่า ช่างที่มีความชำนาญแล้วอาจไม่ต้องเลือกหน้าจอใหญ่มาก แต่ถ้าซื้อใช้งานเองที่บ้านควรเลือกหน้าจอใหญ่จะได้ทำงานง่ายกว่า



2. ความเร็วในการตัดแสง ควรใช้ระยะเวลาน้อยที่สุดในการทำงาน เพราะแสงจากการเชื่อมมีรังสีต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อดวงตา มักบอกความเร็วเป็นเศษส่วนของวินาที เช่น 1/30,000 วินาที



3. ปุ่มปรับความเข้มแสง ช่วยให้หน้ากากเชื่อมปรับแสงอัตโนมัติไม่ทำงานในเวลาที่ไม่ต้องการ เช่น อยู่ในที่ที่แดดจ้า หรือริมถนนมีแสงสะท้อนจากรถที่วิ่งไปมาทำให้หน้าจอจะมืด เราสามารถปรับให้ความไวในการทำงานน้อยลง ปุ่มนี้ช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้น



4. ปุ่มปรับ Delay ช่วยหน่วงเวลาหน้าจอสว่างหลังจากเชื่อมเสร็จแล้ว เพราะโลหะที่ร้อนแดงก็ยังมีแสงสว่างให้แสบตาได้เช่นกัน



5. ปุ่มปรับความเข้มหน้าจอ เพื่อปรับความเหมาะสมของแสงสว่างจากการเชื่อมที่แตกต่างกัน



6. ปุ่มทดสอบการทำงานของเครื่อง ถ้าหากหน้ากากเชื่อมปรับแสงอัตโนมัติทำงานไม่ปกติ จะได้ทราบก่อนการใช้งานและแก้ไขเสียก่อน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับดวงตา



7. ไฟแสดงสถานะของแบตเตอรี่



8. สายรัดศีรษะ หลายคนอาจมองข้ามไปเพราะเห็นว่าไม่สำคัญ แต่สายรัดศีรษะที่แข็งจะทำให้เจ็บและเชื่อมไม่ได้นาน



9. ฟังก์ชันเจียร ช่วยตัดการทำงานของหน้าจอเมื่อใช้หน้ากากเพื่อป้องกันสะเก็ดต่างๆ แต่ไม่ต้องการป้องกันแสง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในงานอื่นๆ



ในการใช้งานสำหรับช่างแต่ละคน มีความจำเป็นต้องเลือกหน้ากากเชื่อมอัตโนมัติให้เหมาะสมกับงานและงบประมาณของท่าน หน้ากากเชื่อมปรับแสงอัตโนมัติที่หน้าจอใหญ่ ฟังก์ชั่นการทำงานเยอะ มักจะมีราคาแพงกว่า แต่ช่วยให้ทำงานสะดวกและมีความปลอดภัยสูง แต่ช่างที่มีความชำนาญแล้วอาจจะเลือกหน้ากากรุ่นประหยัดก็เพียงพอ



Cr. https://www.lertaroon.com/blogs?tltblog_id=3

 

 

อ่านทั้งหมด
สัปดาห์ความปลอดภัย @ พัทยาฟู้ด อินดัสตรี

 ภาพบรรยากาศจากกิจกรรมอบรมความปลอดภัยของบริษัท พัทยาฟู้ด อินดัสตรี จำกัด SAFETY WEEK 2020 ครั้งที่ 25 ในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2563 ร่วมกับบริษัท นอร์ท เซฟตี้อีควิปเม้นท์ จำกัด


สนใจให้ไปจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่พนักงานในโรงงานติดต่อ....
Line: nse-safety
095-705-1081

#northsafety #safety อ่านทั้งหมด
ประเภทของหมวกนิรภัย

 ประเภทของหมวกนิรภัย

1.หมวกนิรภัย ชนิด Class G ลดอันตรายจากไฟฟ้าแรงต่ำ
  - ต้องต้านทานแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ 2,200โวลต์ ที่ความถี่ 50 Hz เป็นเวลา 1 นาที
  - ค่าแรงกระแทกสูงสุดที่ส่งผ่านหมวกไม่เกิน 4,448 นิวตัน
  - ค่าเฉลี่ยกระแทกที่ส่งผ่านติ้งไม่เกิน 3,781 นิวตัน
  - ความต้านทานแรงเจาะ รอบเจาะที่เกิดขึ้นต้องลึกไม่เกิน 10 มม. ใช้ในการก่อสร้าง งานทั่วไป

 2.หมวกนิรภัย ชนิด Class E ลดอันตรายจากไฟฟ้าแรงสูง
  - ต้องต้านทานแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับได้ 20,000 โวลต์ ที่ความถี่ 50 Hzเป็นเวลา3นาที
  - ค่าแรงกระแทกสูงสุดที่ส่งผ่านหมวกไม่เกิน 4,448 นิวตัน
  - ค่าเฉลี่ยกระแทกที่ส่งผ่านติ้งไม่เกิน 3,781 นิวตัน
  - ความต้านทานแรงเจาะ รอบเจาะที่เกิดขึ้นต้องลึกไม่เกิน 10 มม. ใช้ในงานกันไฟฟ้าแรงสูง

 3.หมวกนิรภัย ชนิด Class C หมวกนิรภัยที่ไม่สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้ เนื่องจากเป็นโลหะ
  - ค่าแรงกระแทกสูงสุดที่ส่งผ่านหมวกไม่เกิน 4,448 นิวตัน
  - ค่าเฉลี่ยกระแทกที่ส่งผ่านติ้งไม่เกิน 3,781 นิวตัน
  - ความต้านทานแรงเจาะ รอบเจาะที่เกิดขึ้นต้องลึกไม่เกิน 10 มม. ใช้ในงานขุดเจาะน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมัน แก๊ส

4.หมวกนิรภัย ชนิด Class D หมวกนิรภัยที่สามารถทนความร้อนสูงได้
  - ทำด้วยพลาสติกหรือไฟเบอร์กลาส เมื่อติดไฟแล้วต้องดับได้เอง
  - ค่าแรงกระแทกสูงสุดที่ส่งผ่านหมวกไม่เกิน 4,448 นิวตัน
  - ค่าเฉลี่ยกระแทกที่ส่งผ่านติ้งไม่เกิน 3,781 นิวตัน
  - ความต้านทานแรงเจาะ รอบเจาะที่เกิดขึ้นต้องลึกไม่เกิน 10 มม. ใช้ในงานดับเพลิง งานเหมือง

 

อ่านทั้งหมด
999/34 หมู่ 9 ถ.สุขุมวิท ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270 ประเทศไทย

Line ID: nse-safety

Tel: 02-384-3116, 02-384-0148, 02-757-7002 ถึง 4, 02-757-8687
Fax: 02-384-4222, 02-757-8688
Email: info@nse-safety.com