ทำไมต้องใส่รองเท้ากันความเย็น ในหน้างานที่เย็นจัด !!!

+ โดยปกติแล้ว เราจะใส่รองเท้าเพื่อป้องกันเท้าเปื้อน ป้องกันเท้าจากเชื้อโรคสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือโดนของมีคมบาด

+ สำหรับรองเท้าเซฟตี้นั้น นอกจากจุดประสงค์ที่ได้กล่าวมาแล้ว รองเท้าเซฟตี้ยังสามารถป้องกันอุบัติเหตุ ที่อาจจะเกิดจากการทำงานต่างๆ

+ เช่น ป้องกันของตกใส่เท้า ป้องกันการเจาะทะลุ ป้องกันการตัดเฉือน ป้องกันการลื่นไถล ลดอาการเมื่อยล้า ป้องกันการเผาไหม้ ป้องกันสภาพอากาศ 

+ สำหรับหน้างานที่มีความเย็นจัด เช่นห้องแช่แข็ง อาจก่อนให้เกิดอันตรายต่อผิวหนัง โดยอาจถูกทำลายจากความเย็นจัด (Frostbite) โดยเมื่อผิวหนังไวต่อความเย็นมากขึ้น อาจมีอาการเหน็บชาเรื้อรัง ข้ออักเสบ เสี่ยงต่อการเกิด Frostbite ซ้ำอีกครั้ง ทำให้เกิดบาดทะยัก การติดเชื้อ เนื้อตายเน่าได้

Line: nse-safety

#ชุดกันความเย็น #เสื้อกันความเย็น #กางเกงกันความเย็น #รองเท้ากันความเย็น #ถุงมือกันความเย็น #เอี๊ยมกันความเย็น #cold insulation #นอร์ทเซฟตี้ #northsafety

+ เทคโนโลยีการผลิตแบบ Thermal Core

+ หลอมปลอกเชือกเข้ากับแกนกลาง

+ ทำให้เกิดความทนทาน ไม่ลื่นหลุด

+ เพิ่มความปลอดภัยกับผู้ใช้งานมากขึ้น

+ การปฏิบัติงานบนที่สูงเกิน 4 เมตร ควรใช้อุปกรณ์ป้องการการพลัดตก

+ นอกจากการใช้อุปกรณ์ป้องการการพลัดตกที่ได้มาตรฐานแล้ว ควรจัดสถานที่ทำงาน เช่นติดตั้งอุปกรณ์เพื่อลดความเสี่ยง เช่น นั่งร้าน,ตาข่าย

+ ควรฝึกอบรมให้กับผู้ที่ต้องขึ้นไปปฏิบัติงานบนที่สูง

+ ควรตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้ทุกครั้ง

+ จุดยึดต้องสามารถรับแรงได้อย่างน้อย 22KN และควรอยู่ในตำแหน่งเหนือหัวขึ้นไปและอยู่ในแนวเดียวกับผู้ใช้

+ จุดที่เชื่อมต่อกับจุดยึด ควรรับแรงอย่างน้อย 16KN

+ ความยาวเชือกช่วยชีวิต ควรมีระยะไม่ให้ผู้ใช้พลัดตกไปเกิน 2 ฟุต

+ ความยาวเชือกช่วยชีวิต พร้อมอุปกรณ์ดูดซับแรงกระแทกจะต้องไม่ทำให้ผู้ใช้งานตกลงมาเกิน 6 ฟุต

+ เมื่อเกิดการตกขึ้น ให้เปลี่ยนอุปกรณ์ทันทีและไม่ควรนำกลับมาใช้อีก